วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554
งานประเพณีบุญบั้งไฟ จังหวัดยโสธร
งานประเพณีบุญบั้งไฟ จังหวัดยโสธร
จังหวัดยโสธร ขอเชิญร่วม "งานประเพณีบุญบั้งไฟ" ในวันที่ 13 - 15 พฤษภาคม 2554 ณ บริเวณสวนสาธารณะพญาแถน อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร
งานประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นงานประเพณีท้องถิ่นของชาวอีสาน ที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต และความเชื่อทางศาสนาของชาวอีสานมาช้านาน โดยเชื่อว่าเมื่อเข้าสู่ฤดูกาลปักดำทำนา จะต้องจุดบั้งไฟขึ้นไปบูชาพญาแถนบนฟากฟ้า เพื่อขอให้ "พญาแถน" ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น "เทพแห่งฝน" ได้ดลบันดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล เพื่อให้สรรพสิ่งบนผืนโลก ได้ดำเนินวีถีชีวิตไปตามครรลองที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะผู้คนบนผืนดินอีสาน ที่มีวิถีชีวิตผูกพันกับการทำใร่ทำนามาช้านาน ต้องอาศัยข้าวและพืชผลทางการเกษตร ในการหล่อเลี้ยงดำรงชีวิตมาโดยตลอด น้ำฝนจากฟ้าจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง พิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ คือ งานประเพณีแห่และจุดบั้งไฟ จึงถูกสร้างสรรค์ขึ้นมา เพื่อเป็นความหวังและกำลังใจของชาวอีสานมาโดยตลอด
งานประเพณีบุญบั้งไฟ จังหวัดยโสธรจัด ณ สวนสาธารณะพญาแถน และเขตเทศบาลเมืองยโสธร ประเพณีบุญบั้งไฟ หรือบุญเดือนหก จัดขึ้นเป็นประจำปีทุกปี ในช่วงอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคม ก่อนที่จะถึงฤดูลงมือทำนา ทำไมงานบุญบั้งไฟของชาวยโสธรถึงน่าสนใจ เนื่องจากบุญบั้งไฟของชาวยโสธรเป็นบุญบั้งไฟนานาชาติ โดยมีบั้งไฟจากประเทศญี่ปุ่น และประเทศเพื่อนบ้านมาร่วมงานทุกปี ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก และดึงดูดชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวชมจำนวนมาก ทั้งนี้ มีการประกวดแห่เซิ้งบั้งไฟ, บั้งไฟสวยงาม, ประกวดกองเชียร์ และการประกวดธิดาบั้งไฟโก้ ฯลฯ
ความเป็นมาประเพณีบุญบั้งไฟ
ตามตำนานเล่าว่า เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าถือชาติกำเนิดเป็นพญาคางคก ได้อาศัยอยู่ใต้ร่มโพธิ์ใหญ่ในเมืองพันทุมวดี ด้วยเหตุใดไม่แจ้ง พญาแถนเทพเจ้าแห่งฝนโกรธเคืองโลกมนุษย์มาก จึงแกล้งไม่ให้ฝนตกนานถึง 7 เดือน ทำให้เกิดความลำบากยากแค้นอย่างแสนสาหัสแก่มวลมนุษย์ สัตว์ และพืช จนกระทั่งพากันล้มตายเป็นจำนวนมาก พวกที่แข็งแรงก็รอดตาย และได้พากันมารวมกลุ่มใต้ต้นโพธิ์ใหญ่กับพญาคางคก สรรพสัตว์ทั้งหลายจึงได้หารือกันเพื่อจะหาวิธีการปราบพญาแถน ที่ประชุมได้ตกลงกันให้พญานาคียกทัพไปรบกับพญาแถน แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ จากนั้นจึงให้พญาต่อแตนยกทัพไปปราบแต่ก็ต้องพ่ายแพ้อีกเช่นกัน ทำให้พวกสรรพสัตว์ทั้งหลายเกิดความท้อถอย หมดกำลังใจและสิ้นหวัง ได้แต่รอวันตาย
ใน ที่สุดพญาคางคกจึงขออาสาที่จะไปรบกับพญาแถน จึงได้วางแผนในการรบ โดยปลวกทั้งหลายก่อจอมปลวกขึ้นไปจนถึงเมืองพญาแถน เพื่อเป็นเส้นทางให้บรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลาย ได้เดินทางไปสู่เมืองพญาแถน ซึ่งมีมอด แมลงป่อง ตะขาบ สำหรับมอดได้รับหน้าที่ให้ทำการกัดเจาะด้ามอาวุธ ที่ทำด้วยไม้ทุกชนิด ส่วนแมลงป่องและตะขาบให้ซ่อนตัวอยู่ตามกองฟืนที่ใช้หุงต้มอาหาร และอยู่ตามเสื้อผ้าของไพร่พลพญาแถนทำหน้าที่กัดต่อย หลังจากวางแผนเรียบร้อย กองทัพพญาคางคกก็เดินทางเพื่อปฏิบัติหน้าที่การรบ มอดทำหน้าที่กัดเจาะด้ามอาวุธ แมลงป่องและตะขาบกัดต่อยไพร่พลของพญาแถนจนเจ็บปวด ร้องระงมจนกองทัพระส่ำระสาย ในที่สุดพญาแถนจึงได้ยอมแพ้และตกลงทำสัญญาสงบศึกกับพญาคางคก ดังนี้...
1. ถ้ามวลมนุษย์จุดบั้งไฟขึ้นสู่ท้องฟ้าเมื่อใด ให้พญาแถนสั่งให้ฝนตกในโลกมนุษย์
2. ถ้าได้ยินเสียงกบ เขียดร้อง ให้รับรู้ว่าฝนได้ตกลงมาแล้ว
3. ถ้าได้ยินเสียงสนู (เสียงธนูหวายของว่าว) หรือเสียงโหวด ให้ฝนหยุดตกเพราะจะเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวข้าว
หลังจากที่ได้สัญญากันแล้ว พญาแถนจึงได้ถูกปล่อยตัวไปและได้ปฏิบัติตามสัญญามาจนบัดนี้
กำหนดการ จัดงานวันที่ 13-15 พฤษภาคม 2554
วันที่ 13 พฤษภาคม 2554 ชมการประกวดกองเชียร์
วันที่ 14 พฤษภาคม 2554 ชมการประกวดขบวนรำเซิ้ง และ บั้งไฟสวยงาม
วันที่ 15 พฤษภาคม 2554 ชมการจุดบั้งไฟ ณ ฐานจุดบั้งไฟ สวนสาธารณะพญาแถน
ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลเมืองยโสธร โทรศัพท์ +66 4572 0951 ต่อ 306 และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี โทรศัพท์ +66 4524 3770, +66 4525 0714
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น