วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554
เล่นน้ำคลายร้อนที่ น้ำตกพลิ้ว จันทบุรี
ร้อน ๆ แบบนี้ต้องหาที่คลายร้อนให้ชุ่มฉ่ำปอดซะหน่อยแล้ว เพราะฉะนั้น วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปเย็นกาย พร้อมกับดื่มด่ำความงดงาม ซึ่งธรรมชาติสร้างสรรค์ได้อย่างลงตัวที่ "น้ำตกพริ้ว" ตั้งอยู่ใน จังหวัดจันทบุรี อะ ๆ แต่ก่อนอื่นเราขอพาไปทำความรู้จักกับ "อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว"อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว กันก่อนนะจ๊ะ...
อุทยาน แห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอเมือง อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอขลุง และอำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 134.50 ตารางกิโลเมตร หรือ 84,062.50 ไร่ ประกอบด้วยป่าที่สมบูรณ์ เทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ทำให้มีอากาศจะเย็นสบายตลอดทั้งปี ยอดเขาสลับซับซ้อนสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางตั้งแต่ 20-924 เมตร จุดสูงสุดของพื้นที่อยู่ที่ ยอดเขามาบ หว้ากรอก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 924 เมตร และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย อยู่ห่างจากจังหวัดจันทบุรีประมาณ 14 กิโลเมตร ถนนลาดยางตลอดสายทำให้สะดวกสบายในการไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติน้ำตก พลิ้ว ถูกเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 11 ของประเทศไทย โดยใช้ชื่อว่า อุทยานแห่งชาติเขา สระบาป แต่ต่อมา นายผจญ ธนมิตรามณี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสระบาป ได้ทำหนังสือขอเปลี่ยนชื่อ อุทยานแห่งชาติเขาสระบาป เป็น อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว เนื่องจาก "น้ำตกพลิ้ว" เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ มีน้ำตกตลอดปี อีกทั้งยังเป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป และเป็นจุดเด่นของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2525 เห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อเป็น "อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว"
ส่วน น้ำตกพลิ้ว เป็นน้ำตกขนาด ใหญ่และสวยงาม มีน้ำตลอดปี ประกอบด้วยสายธาร 2 สาย สายหนึ่งไหลลดหลั่นผ่านซอกหินผา อีกสายหนึ่งมีขนาดเล็กกว่า แต่ทิ้งตัวลงมาจากผาสูง 20 เมตร ทั้งสองสายไหลมารวมกันในแอ่งน้ำใสสะอาด มากสามารถมองเห็นพื้นล่างซึ่งส่วนใหญ่เป็นหินและทรายในระดับลึกกว่า 2 เมตร ภายในบริเวณน้ำตกและลำคลอง มีปลาใหญ่น้อยหลายชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นที่ตื่นตาตรึงใจกับฝูงปลาแก่ผู้ที่ไปท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะ "ปลาพลวงหิน" เหล่านี้
โดยคำว่า "พลิ้ว" กล่าวกันว่าเป็นภาษาชอง ซึ่งเป็นเจ้าของถิ่นเดิม แปลว่า ทราย หรือ หาดทราย แต่เข้าใจกันว่า น้ำตกพลิ้ว คงจะได้ชื่อมาจากต้นไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งชอบขึ้นในดินปนทราย เป็นไม้เถามีดอกเป็นผลเล็กขนาดลูกเกด สีเหลืองอมแดง ขึ้นทั่วไปในแถบนี้
น้ำตกพลิ้ว เป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญของ อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ซึ่งประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดอื่น ๆ รู้จักกันดี อีกทั้ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เสด็จประพาสน้ำตกแห่งนี้หลายครั้ง ในระหว่างปี พ.ศ. 2417-2424 และทรงยกย่องว่าเป็นน้ำตกที่งดงามที่สุด ในบรรดาน้ำตกที่พระองค์เคยเสด็จประพาส
ขณะเดียวกัน บริเวณ น้ำตก พลิ้ว ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ซึ่งทาง อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ได้จัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติ สภาพป่า และพรรณพืชต่าง ๆ ไว้ให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปได้เรียนรู้
สำหรับ สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ใน อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ได้แก่...
สถูป พระนางเรือล่ม อยู่ในบริเวณ น้ำตกพลิ้ว สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2424) เพื่อเป็นที่ระลึกแก่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี ภายในสภูปพระนางเรือล่มบรรจุพระอังคารของพระนางเจ้าฯ ด้วย เนื่องจากพระองค์ท่านเคยเสด็จประพาส น้ำตกพลิ้ว เมื่อ พ.ศ. 2417 และทรงโสมนัส ชื่นชม ความงามธรรมชาติของน้ำตกพลิ้วยิ่งนัก
ซึ่งการที่ทรงโปรดให้สร้างอนุเสาวรีย์รูปปิรามิด ก็ด้วยทรงพระราชดำริว่า "ทำเป็นรูปอื่นอาจไม่คงทนภาวร เพราะตั้งอยู่กลางป่าเขาลำเนาไพร อันไม่มีผู้ดูแล ฉะนั้น เมื่อปิรามิดของอียิปต์ยืนยงคงทนได้ฉันใด ปิรามิดน้อยนี้ก็คงจะยืนยงคงทนอยู่เช่นกัน ณ ท่ามกลางป่าและเสียงไหลรินของธารพลิ้ว"
อลงกรณ์เจดีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้า อยู่หัว พร้อมด้วย พระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีอัครมเหสี ได้ทรงโปรดปรานให้สร้างเจดีย์ทำด้วยศิลาแลงขึ้น ที่บริเวณหน้าผาด้านหน้า น้ำตกพลิ้ว เมื่อ พ.ศ. 2419 เพื่อเป็นที่ระลึกในการเสด็จประพาส น้ำตกพลิ้ว ด้วยกัน และพระราชทานนามว่า "อลงกรณ์เจดีย์" พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรด น้ำตกพลิ้ว เป็นอย่างยิ่ง และได้เสด็จประพาสหลายคราว ทรงโปรดมาก ถึงกับมีพระราชดำรัสว่า "เราได้เห็นน้ำตกอย่างนี้มาสองสามแห่ง คือที่ปีนัง เกาะช้าง และสีพยา เห็นไม่มีที่ไหนจะงามกว่าที่นี่เลย ถ้าจะให้เรานั่งดูอยู่ยังค่ำก็แทบจะได้ด้วยเย็นสบายจริง"
น้ำตก คลองนารายณ์ อยู่ที่ ตำบลคลองนารายณ์ ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 6 กิโลเมตร น้ำตกอยู่ห่างจากถนนใหญ่สายจันทบุรี-ตราด ประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พล.3 (คลองนารายณ์) จากนั้นเดินเท้าไปอีก 2.5 กิโลเมตร ผ่านป่าดิบชื้นก็จะถึงน้ำตกคลองนารายณ์ ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดกลางไหลลดหลั่นจากผาชันสูง 25 เมตร น้ำใสสะอาดและมีน้ำมากตลอดปี เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการเดินป่าชมความงามของพฤกษาชาติและน้ำตก
อ่างศาล อยู่เลยจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่ง ชาติมาประมาณ 300 เมตร บริเวณข้างลำธารจะพบศาลตั้งอยู่ ในอดีตบริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของปรำที่ประทับและจุลสีห์จุมพต ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงสร้างไว้กลางลำธารเพื่อเป็นอนุสรณ์สถาน ปัจจุบันเหลือเพียงร่อยรอยบริเวณที่เคยเป็นพระเจดีย์ เพราะได้ถูกระแสน้ำพัดพังไปเมื่อปี 2517
อ่างสรง หรือ อ่างหงส์ อยู่เลยจากอ่างศาลประมาณ 200 เมตร มีลักษณะเป็นน้ำตกเล็ก ๆ ไหลลงมาจากหน้าผาหินเป็นทางคล้ายหางหงส์ ในอดีตบริเวณแอ่งน้ำกว้าง ในหลวงรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ทั้งสองพระองค์ทรงลงสรงน้ำ ณ อ่างสรงแห่งนี้
ถ้ำพระนารายณ์ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นถ้ำที่มีลำธารน้ำใสบริสุทธิ์ไหลออกมา แหล่งน้ำแห่งนี้ถือเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 18 แห่งของประเทศที่ใช้ในพิธีมูรธาภิเษกในพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก ปัจจุบันหินได้ถล่มลงมาปิดปากถ้ำแต่ยังคงมีน้ำไหลออกมาอยู่ตลอดปี
อุทยานแห่งชาติได้จัดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ผ่านจุดศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจ เช่น ถ้ำนารายณ์ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ มาสิ้นสุดที่อ่างศิลา นอกจากนี้ ยังมีน้ำตกที่สวยงามซึ่งอยู่สูงขึ้นไปจากน้ำตกคลองนารายณ์อีก 2 แห่ง คือ น้ำตกกลาง และน้ำตกอัศจรรย์
น้ำตก ตรอกนอง อยู่ที่ตำบลตรอกนอง อำเภอขลุง การเดินทางใช้เส้นทางแยกเข้าน้ำตกพลิ้วไปทางจังหวัดตราด ถึงสี่แยกเข้าอำเภอขลุงแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนสาย ขลุง-มะขามอีก 10 กิโลเมตร ถึงตลาดตรอกนอง เลี้ยวซ้ายเข้าไปตามทางเข้าสู่น้ำตกตรอกนองอีก 2 กิโลเมตร ถึงบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พล.1.(ตรอกนอง) ต่อจากนั้นเดินเท้าขึ้นไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตกชั้นล่างสุดซึ่งเรียกว่า "น้ำตก ไม้ซี้" ถัดไปเป็นน้ำตกกลางและชั้นบนสุดเรียกว่า "น้ำตกตรอกนอง" มีความสวยงามตามธรรมชาติมาก มีน้ำไหลตลอดปี
ในระหว่างการเดินทางขึ้นน้ำตก จะเพลิดเพลินกับความสวยงามของลำธารและสภาพป่า ที่ร่มรื่นและเขียวขจีตามธรรมชาติมาก และในบริเวณนี้มีสัตว์ป่าชุกชุม โดยสังเกตเห็นรอยเท้าของสัตว์ป่าที่ลงมากินน้ำตามลำธาร เช่น หมี หมูป่า ชะมด หมูหริ่ง พังพอน และเก้ง ฯลฯ พร้อมทั้งสัตว์จำพวกนกก็มีอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน และในบริเวณนี้ก็ยังมี ถ้ำพระเจดีย์ อยู่บนไหล่เขาพระเจดีย์ลักษณะเป็นก้อนหิน ใหญ่คล้ายเจดีย์ ตั้งอยู่บนไหล่เขาชาวเขาเรียกว่า "เขาพระเจดีย์ " เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น หมี เลียงผา และค้างคาว ฯลฯ อุทยานแห่งชาติได้จัดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ป่าดงดิบชื้น ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
น้ำตก มะกอก อยู่เลยทางเข้า น้ำตกตรอกนอง ไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตรตามถนนสาย ขลุง-มะขาม จะถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พล.4.(น้ำตกมะกอก) เดินเลียบลำธารไปอีกราว 600 เมตร น้ำตกมะกอกเป็นน้ำตกขนาดเล็กมี 2 ชั้น สายน้ำไหลจากผาสูงชัน น้ำใสเป็นสีเขียวอมฟ้า มีน้ำตลอดปี มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 2.1 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นบริเวณด้านหลังหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ
อ่างเก็บน้ำห้วยตาโบ อยู่ทางตอนเหนือของอุทยานแห่งชาติ บริเวณตำบลมะขาม อำเภอมะขาม การเดินทางใช้เส้นทางเดียวกับน้ำตกมะกอก โดยเลยทางแยกเข้าน้ำตกประมาณ 6 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายเข้าอ่างเก็บน้ำห้วยตาโบประมาณ 8 กิโลเมตร จะถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พล.2 (บ้านอ่าง) ในบริเวณอ่างเก็บน้ำนี้มีนกเป็ดแดงจำนวนมากมาอาศัยอยู่ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 2.4 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นบริเวณสันอ่างเก็บน้ำ
จุด ชมทิวทัศน์ เป็นจุดที่ สามารถมองเห็นสภาพป่าที่สมบูรณ์ในเขตอุทยานแห่งชาติ เห็นสวนผลไม้ สวนยาง และเขตที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน และเห็นทะเลในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส
สิ่ง อำนวยความสะดวก
มีบ้านพักให้บริการแก่นักท่องเที่ยว
อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมเต็นท์และสถาน ที่กางเต็นท์ ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ใกล้จุดชมทิวทัศน์, บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ พล.1 (น้ำตกตรอกนอง), บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ พล.1 น้ำตกตรอกนอง (โซนที่ 2), บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ พล.3 (น้ำตกคลองนารายณ์) และบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ พล.4 (น้ำตกมะกอก) โดยการสำรองที่พักเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียด และสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง
มีร้านขายเครื่องดื่ม กาแฟ ไว้บริการนักท่องเที่ยว
มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น.
บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ พล.1 น้ำตกตรอกนอง (โซนที่ 2) ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 23 กิโลเมตร มีค่ายเยาวชนให้บริการ จำนวน 2 หลัง ภายในอาคารค่ายเยาวชนแต่ละหลัง ประกอบไปด้วย 2 ห้องนอน ห้องนอนที่ 1 พักได้ 2 คน เหมาะสำหรับครู อาจารย์ หรือผู้ที่ไดรับมอบหมายให้ดูแลนักเรียน นักศึกษา ห้องพักห้องที่ 2 เป็นห้องนอนรวมพักได้ 28 คน เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา มีห้องเก็บของ 1 ห้อง ห้องโถง 1 ห้อง สำหรับห้องน้ำ-ห้องสุขา มี 8 ห้อง
บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ มีค่ายพักเยาวชนให้บริการแก่นักเรียน นักศึกษา หรือนักท่องเที่ยวทั่วไป ลักษณะค่ายพักมีห้องโถงกลาง แยกเป็นห้องพักชาย 15 คน ห้องพักหญิง 15 คน มีห้องน้ำ - ห้องสุขารวม แยกชาย - หญิง อยู่ภายนอกอาคาร
เนื่องจากในพื้นที่โซนบริการ เป็นพื้นที่ลาดชัน ทำให้มีที่จอดรถให้บริการได้เฉพาะนักท่องเที่ยว ที่มาใช้บริการบ้านพักและพักกางเต็นท์เท่านั้น สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับ ทางอุทยานแห่งชาติขอความร่วมมือให้จอดรถภายนอกนอกเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นลานจอดรถของเทศบาลและของเอกชนโดยต้องเสียค่าบริการรับฝากรถ และหากนักท่องเที่ยวขับรถเลยขึ้นมาจอดรถบริเวณร้านค้าของเอกชน ทางร้านค้าจะให้ท่านจอดรถได้ฟรี แต่ท่านจะต้องซื้อของจากร้านนั้น ๆ
การ เดินทาง
รถยนต์ : การเดินทางจากกรุงเทพฯ - ที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว สามารถเดินทางโดยใช้เส้นทางหลัก 2 เส้นทาง คือ...
1. ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) สายบางนา - ตราด ถึงหลักกิโลเมตรที่ 347 เลี้ยวซ้ายประมาณ 2.5 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว รวมระยะทางประมาณ 340 กิโลเมตร
2. ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 317 แยกเข้าสู่ถนนสายบ้านบึง - แกลง เข้าจันทรบุรี (ตามถนนสายบางนา - ตราด) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 347 เลี้ยวซ้ายประมาณ 2.5 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว รวมระยะทางประมาณ 270 กิโลเมตร
ที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว อยู่ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี ประมาณ 14 กิโลเมตร อยู่ห่างจากตัวเมืองตราด ประมาณ 55 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ซึ่งทำหน้าที่ดูแลรักษาอุทยานแห่งชาติ รวมทั้งอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว ทั้ง 7 หน่วย ดังนี้
1. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ พล.1 (น้ำตกตรอกนอง) ประมาณ 23 กิโลเมตร
2. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ พล.2 (บ้านอ่าง) ประมาณ 18 กิโลเมตร
3. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ พล.3 (น้ำตกคลองนารายณ์) ประมาณ 8 กิโลเมตร
4. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ พล.4 (น้ำตกมะกอก) ประมาณ 36 กิโลเมตร
5. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ พล.5 (กงสีไร่) ประมาณ 18 กิโลเมตร
6. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติชั่วคราว ที่ พล.6 (น้ำตกคลองลาง) ประมาณ 15 กิโลเมตร
7. หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติชั่วคราว ที่ พล.7 (เขาอ่าง) ประมาณ 45 กิโลเมตร
รถโดยสารประจำทาง : จากกรุงเทพฯ ขึ้นรถโดยสารที่สถานีเอกมัย ไปจังหวัดจันทบุรี พอถึงจันทบุรีให้ขึ้นรถสองแถวที่บริเวณตลาด เพื่อไปยังน้ำตกพลิ้ว ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ตำบลพลิ้ว อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี 22190 โทรศัพท์ 0 3943 4528 (VoIP) โทรสาร 0 3943 4528 (VoIP) อีเมล namtokphlio@hotmail.com
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น